ในซีซั่นปัจจุบันของ My Hero Academia สงครามระหว่างฮีโร่กับเหล่าวายร้ายเข้าสู่จุดไคลแมกซ์ โดยการต่อสู้ระหว่างทั้งสองฝ่ายมีการพลิกกลับไปกลับมาหลายครั้ง ในตอนที่ฮีโร่ได้เปรียบ พวกเขาใช้พลังของประตูมิติของ Kurogiri เพื่อแยกกลุ่มวายร้ายออกจากกัน และยังใช้พลัง Erasure ของ Eraserhead และ Neito Monoma เพื่อลบล้างพลัง Quirk ของ Tomura Shigaraki ทำให้พลังของเขาใช้การไม่ได้ แต่ในตอน “It’s a Small World” ฝ่ายวายร้ายกลับได้เปรียบอีกครั้ง เนื่องจากการต่อสู้โดยใช้ Quirk ไม่สามารถเอาชนะได้ง่ายๆ
เมื่อฮีโร่มี Quirk ที่ทรงพลังมากกว่า การชนะการต่อสู้เล็กๆ ก็ดูเป็นเรื่องง่าย แต่ในฐานะที่เป็นอนิเมะประเภทโชเน็น มายฮีโร่ อคาเดเมีย ไม่สามารถให้ฮีโร่ชนะด้วยการใช้พลังเพียงอย่างเดียวได้ เพราะนั่นจะเป็นทางออกที่ง่ายและตื้นเกินไป ตอนนี้ฮีโร่อย่าง Mt. Lady และ Fumikage Tokoyami ถูกผลักดันให้อยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก พวกเขาจำเป็นต้องใช้หัวใจ ความคิดสร้างสรรค์ และบางทีอาจต้องพึ่งพา Deku และพลังของ One For All เพื่อช่วยพลิกสถานการณ์
ฮีโร่โชเน็นชนะด้วยความเชื่อมั่นและความดีงาม ไม่ใช่แค่ด้วยเทคนิคการต่อสู้
ในตอนที่ 18 เหล่าวายร้ายยังคงได้เปรียบ โดย All For One เป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายและครองสนามรบในการต่อสู้ที่ใช้พลังปะทะพลัง แม้ว่าฮีโร่จะมี Quirk ที่เพียงพอสำหรับการจับกุมวายร้ายทั่วไป แต่พลังนี้กลับไม่สามารถเอาชนะ All For One และ Tomura Shigaraki ได้ การรวมพลัง Quirk ก็ไม่เพียงพอที่จะเอาชนะพวกเขาได้ การต่อสู้ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การใช้พลังเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้ชนะได้
ฮีโร่ในโชเน็นมักจะเอาชนะวายร้ายที่แข็งแกร่งกว่าได้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาเก่งกว่าในการต่อสู้ แต่เพราะพวกเขามีจิตใจที่ดีกว่า นี่เป็นสิ่งที่ทำให้เรื่องราวเหล่านี้สร้างแรงบันดาลใจ เพราะฮีโร่ไม่ได้ชนะเพียงเพื่อปกป้องโลก แต่พวกเขาชนะเพราะเหตุผลที่ถูกต้อง ฮีโร่เหล่านี้มักจะผสมผสานความแข็งแกร่งทางกายกับจิตใจเพื่อใช้พลังในทางที่แตกต่างจากวายร้าย นี่คือสิ่งที่ทำให้เรื่องราวมีความลึกซึ้ง
การต่อสู้ของฮีโร่ควรมีมากกว่าการใช้พลัง Quirk
ในตอนนี้ การทำงานเป็นทีมของฮีโร่ยังคงเป็นเพียงการกระทำภายนอก เช่น Mt. Lady ใช้พลังของ Yui Kodai เพื่อใช้เครื่องมือขนาดใหญ่โจมตี All For One แม้จะดูมีประสิทธิภาพ แต่ก็ขาดความสัมพันธ์ทางอารมณ์ Fumikage Tokoyami ก็ใช้พลังของ Dark Shadow แต่ก็เป็นเพียงการทำหน้าที่เท่านั้น
ในทางกลับกัน Izuku Midoriya (Deku) เป็นตัวละครที่จะช่วยชี้ชะตาสงครามครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เพราะเขาเป็นตัวเอกของเรื่อง แต่เพราะเขาสู้ด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง Deku พยายามที่จะเข้าถึง Tenko Shimura ซึ่งซ่อนอยู่ในตัวของ Tomura และพยายามเปลี่ยนแปลงเขา ไม่มีฮีโร่คนไหนที่คิดถึงวิธีนี้ นอกจากนี้ Deku ยังมีพลังของ One For All ซึ่งเป็น Quirk ที่สามารถเอาชนะ All For One ได้ เพราะมันเป็น Quirk ที่มีความผูกพันทางอารมณ์ อีกทั้งยังมีวิญญาณของผู้ใช้ก่อนหน้าคอยช่วยเหลือ
Mina Ashido อาจเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความปรองดองระหว่างฮีโร่และวายร้าย
ฮีโร่จำเป็นต้องมีแนวทางที่ใช้หัวใจและอุดมการณ์มากกว่าแค่การเอาชนะในสงคราม หากฮีโร่ชนะเพียงแค่ทางกายภาพ ปัญหาที่อยู่เบื้องหลังความขัดแย้งก็จะยังคงอยู่ ซึ่งอาจทำให้สงครามไม่สิ้นสุด Deku น่าจะมีบทบาทสำคัญในการแก้ปัญหานี้ แต่ในตอนที่ 18 Mina Ashido ซึ่งเป็นฮีโร่อีกคนหนึ่งก็ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถที่จะสร้างสะพานเชื่อมระหว่างทั้งสองฝ่าย Mina มีความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจอย่างลึกซึ้งต่อตัวเองและผู้อื่น แม้เธอจะมีบุคลิกที่ดูร่าเริง แต่ภายในก็มีความไม่มั่นคงที่ทำให้เธอสามารถเข้าใจความรู้สึกของวายร้ายได้
Mina ได้กล่าวในตอนนี้ว่าเธอเข้าใจความกลัวที่จะไม่แข็งแกร่งพอ ซึ่งความรู้สึกนี้ก็เป็นสิ่งที่เหล่าวายร้ายเองก็ต้องเคยเผชิญ นี่อาจเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ฮีโร่และวายร้ายสามารถสร้างความเข้าใจกันได้มากขึ้นหลังจากสงครามสิ้นสุดลง ความกลัวและความไม่มั่นคงที่มีอยู่ในทั้งสองฝ่ายอาจเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นในสังคม